วันพุธที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ios Windows Phone และ Android


 IOS คืออะไร

iOS (ก่อนหน้าiPhone OS ) เป็นระบบปฏิบัติการมือถือที่พัฒนาและจัดจำหน่ายโดยบริษัท Apple Incออกจำหน่ายในปี 2007 สำหรับiPhoneและiPod Touch ของมันได้รับการขยายเพื่อรองรับอุปกรณ์ที่แอปเปิ้ลอื่น ๆ เช่นiPadและโทรทัศน์แอปเปิ้ล
ซึ่งแตกต่างจากไมโครซอฟท์ 's Windows CE (Windows โทรศัพท์ ) และGoogle 's Android , แอปเปิ้ลไม่ได้ใบอนุญาตสำหรับการติดตั้ง iOS บนฮาร์ดแวร์ที่ไม่ใช่แอปเปิ้ล ณ วันที่ 12 มิถุนายน 2012 , แอปเปิ้ลที่ App Storeมีมากกว่า 650,000 โปรแกรม iOS ซึ่งได้รับการเรียกรวมดาวน์โหลดมากกว่า 30 ล้านครั้ง มันมีส่วนแบ่ง 16% จากมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการหน่วยที่ขายในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2010 หลังทั้งสองของ Google 's AndroidและNokia 's Symbian ในเดือนพฤษภาคม 2010 ในประเทศสหรัฐอเมริกาก็คิดเป็น 59% ของการใช้โทรศัพท์มือถือบนเว็บของข้อมูล(รวมถึงการใช้ทั้งบนไอพอดทัชและไอแพด )
ส่วนติดต่อผู้ใช้ของ iOS ขึ้นอยู่กับแนวคิดของการจัดการตรงโดยใช้ท่าทางสัมผัสหลาย . องค์ประกอบการควบคุมการเชื่อมต่อประกอบด้วยเลื่อนสวิตช์และปุ่ม เพื่อตอบสนองผู้ใช้ป้อนเป็นได้ทันทีและให้อินเตอร์เฟซของเหลว ปฏิสัมพันธ์กับระบบปฏิบัติการรวมถึงท่าทางเช่นรูด , แตะ , หยิกและหยิกย้อนกลับซึ่งทั้งหมดนี้มีความหมายเฉพาะในบริบทของระบบปฏิบัติการ iOS และอินเตอร์เฟซแบบมัลติทัชของมัน ภายในaccelerometersถูกนำมาใช้โดยการใช้งานบางอย่างเพื่อตอบสนองต่อการสั่นของอุปกรณ์ (หนึ่งผลเหมือนกันคือคำสั่ง undo) หรือหมุนมันในสามมิติ (หนึ่งผลร่วมกันคือการเปลี่ยนจากแนวตั้งเป็นโหมดแนวนอน)
iOS มาจากOS Xกับที่มันหุ้นดาร์วินรากฐานและดังนั้นจึงเป็นUnixระบบปฏิบัติการ
ใน Ios, มีสี่เป็นชั้น abstractionหลักของระบบปฏิบัติการชั้น: Core Servicesชั้นชั้น Media, และโกโก้ Touchชั้น รุ่นปัจจุบันของระบบปฏิบัติการ (IOS 5.1.1) อุทิศ 1-1.5 GB ของหน่วยความจำแฟลชของอุปกรณ์สำหรับพาร์ติชันระบบที่ใช้ประมาณ 800 MB ของพาร์ติชันที่ (ที่แตกต่างกันไปตามรุ่น) สำหรับ iOS ตัวเอง
ะบบปฏิบัติการได้เปิดตัวกับiPhoneที่Macworld Conference & Expo , 9 มกราคม 2007 และเปิดตัวในเดือนมิถุนายนของปีที่ในตอนแรกแอปเปิ้ลวรรณกรรมการตลาดไม่ได้ระบุชื่อแยกต่างหากสำหรับระบบปฏิบัติการที่ระบุเพียง ที่ "iPhone รัน OS X" ในขั้นต้นการใช้งานของบุคคลที่สามไม่ได้รับการสนับสนุน สตีฟจ็อบส์เป็นที่ถกเถียงกันว่านักพัฒนาสามารถสร้างโปรแกรมประยุกต์บนเว็บว่า "จะทำตัวเหมือนปพลิเคชันบน iPhone พื้นเมือง" ที่ 17 ตุลาคม 2007, แอปเปิ้ลประกาศว่าซอฟท์แว Kit พื้นเมืองพัฒนา (SDK) อยู่ภายใต้การพัฒนาและการที่พวกเขา วางแผนที่จะนำมัน "อยู่ในมือนักพัฒนา 'ในเดือนกุมภาพันธ์" ที่ 6 มีนาคม 2008, แอปเปิ้ลปล่อยออกมาก่อนเบต้าพร้อมกับชื่อใหม่สำหรับระบบปฏิบัติการ: "iPhone OS"
แอปเปิ้ลได้เปิดตัว iPod touch, ซึ่งมีมากที่สุดของความสามารถที่ไม่ใช่โทรศัพท์ของ iPhone แอปเปิ้ลยังขายได้มากกว่าหนึ่งล้าน iPhones ในช่วงเทศกาลวันหยุด 2007 ที่ 27 มกราคม 2010, แอปเปิ้ลประกาศ iPad, featuring หน้าจอขนาดใหญ่กว่า iPhone และ iPod touch และได้รับการออกแบบสำหรับการท่องเว็บการบริโภคสื่อและการอ่านiBooks .
ในเดือนมิถุนายน 2010, OS iPhone ของ Apple แบรนเป็น "iOS" เครื่องหมายการค้า "IOS" ได้ถูกใช้โดยซิสโก้มานานกว่าทศวรรษสำหรับระบบปฏิบัติการของIOSที่ใช้ในเราเตอร์ของมัน เพื่อหลีกเลี่ยงการใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นคดี, แอปเปิ้ลได้รับใบอนุญาต "IOS" เครื่องหมายการค้าจากซิสโก้

Windows คืออะไร

     Windows คือ ระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ระบบหนึ่ง (operating system) สร้างขึ้นโดยบริษัทไมโครซอฟต์ เนื่องจากความยากในการใช้งานดอสทำให้บริษัทไมโครซอฟต์ได้มีการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่เรียกว่า Windows ที่มีลักษณะเป็น GUI (Graphic-User Interface) ที่นำรูปแบบของสัญลักษณ์ภาพกราฟิกเข้ามาแทนการป้อนคำสั่งทีละบรรทัด ซึ่งใกล้เคียงกับแมคอินทอชโอเอส เพื่อให้การใช้งานดอสทำได้ง่ายขึ้น แต่วินโดวส์จะยังไม่ใช่ระบบปฏิบัติการจริง ๆ เนื่องจากมันจะทำงานอยู่ภายใต้การควบคุมของดอสอีกที กล่าวคือจะต้องมีการติดตั้งดอสก่อนที่จะติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows และผู้ใช้จะสามารถเรียกใช้คำสั่งต่าง ๆ ที่มีอยู่ในดอสได้โดยผ่านทางWindows   ซึ่ง Windows จะง่ายต่อการใช้งานมากกว่าดอส
ระบบปฎิบัติการวินโดวส์ (Windows)  

               ระบบปฏิบัติการแบบวินโดวส์ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ไมโครซอฟต์วินโดวส์ เป็นระบบปฏิบัติการที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในวงการธุรกิจและวงการอื่น ๆทั่วโลก บริษัทไมโครซอฟต์ได้พัฒนาวินโดวส์ออกมาหลายรุ่น ได้แก่ วินโดวส์ 95 วินโดวส์ 98 วินโดวส์ 2000 วินโดวส์ Me วินโดวส์ XP และล่าสุดคือวินโดวส์ 2003 ทุก ๆรุ่นจะมีหน้าตาและการทำงานคล้าย ๆกัน ต่างกันเพียงความสามารถในการใช้งานที่สูงขึ้น
             
              การเข้าสู่ระบบปฏิบัติการแบบวินโดวส์

                       เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้งโปรแกรมวินโดวส์แล้ว เมื่อเปิดเครื่องแล้วคอยสักครู่จะเข้าสู่โปรแกรมของระบบในช่วงการเปิดเครื่องโปรแกรมจะตรวจสอบระบบของฮาร์ดแวร์ต่าง ๆหลังจากนั้นจะมีจอภาพ

    1. เดสก์ทอป (Desktop) พื้นหลังของจอภาพในระบบปฏิบัติการแบบวินโดวส์ เรียกว่า เดสก์ทอป หมายถึง โต๊ะทำงานที่มีอุปกรณ์การทำงานอยู่ครบพร้อมทำงานได้ทันที
                      2. แป้นลัด (Short cut) เป็นรูปเล็ก ๆ บนหน้าจอ สำหรับคลิกให้ทำงานหรือเปิดโปรแกรมได้โดยไม่ต้องเข้าไปเปิดโฟลเดอร์ในโปรแกรม ด้านบนขวาสุดเป็นแป้นลัดสำหรับ คลิกเข้าสู่โปรแกรมของไมโครซอฟต์ออฟฟิศ ได้แก่ ไมโครซอฟต์เวิร์ด ไมโครซอฟต์เอกเซลไมโครซอฟต์เพาเวอร์พอยต์ ฯลฯ เป็นต้น
                      3. สัญรูป (Icon) เป็นรูปเล็ก ๆ บนจอภาพใช้แทนการทำงานหรือคำสั่งต่าง ๆ สำหรับคลิกเพื่อให้เกิดการทำงาน
                      4. แถบงาน (Task bar) เป็นแถบสีเทาด้านล่างของเดสก์ทอป สำหรับแสดงงานที่เปิดใช้อยู่ และงานที่ปิดไว้ชั่วคราว แถบงานประกอบด้วยสัญลักษณ์ต่าง ๆดังนี้
                              v      ปุ่ม Start อยู่ด้านซ้ายของแถบงาน สำหรับคลิกเพื่อเปิดกรอบเมนูของโปรแกรม
                              v      เทมเพลท (Template) อยู่ด้านขวาของแถบงาน ประกอบด้วย นาฬิกา ตัวอักษร TH และ EN บอกโหมดการใช้ภาษาของแป้นพิมพ์เป็นไทยและอังกฤษ การสลับภาษาระหว่างไทยและอังกฤษ ทำได้ 2 วิธี คือ
                                     1. ใช้เมาส์คลิกที่ตัวอักษร EN หรือ TH ในแถบงานจะมีกรอบแสดงภาษาให้เลือก ผู้ใช้คลิกเลือกภาษาที่ต้องการ
                                     2. กดปุ่ม Assent ที่แป้นพิมพ์สลับไทยเป็นอ้งกฤษ และอังกฤษเป็นไทย
                     5. ตัวชี้เมาส์ ปกติเป็นรูปลูกศรสีขาว มีหน้าที่คลิกเพื่อเปิดโปรแกรม ลักษณะของการใช้เมาส์มี 4 แบบ
                             v      การลากและปล่อย (Drag and Drop) เป็นวิธีการคลิกปุ่มข้างซ้ายค้างไว้ที่สัญรูป แล้วลากไปปล่อยที่ตำแหน่งอื่น
                             v      การคลิก (Click) หมายถึง ชี้เมาส์ที่สัญรูปที่ต้องการ และกดเมาส์ข้างซ้าย 1 ครั้ง 
                             v      การคลิกขวา (Right click) เป็นการกดปุ่มข้างขวา 1 ครั้ง
                             v      การดับเบิ้ลคลิก (Double click) คือการคลิก 2 ครั้งติดต่อกันอย่างเร็ว
                       6. สัญรูปหลักที่มีบนจอภาพ ได้แก่ 
                             v      My Documents เป็นรูปแฟ้มสีเหลืองเรียกว่า โฟลเดอร์ (Folder) สำหรับเก็บข้อมูลเอกสารต่างๆ ที่บันทึกจากโปรแกรมไมโครซอฟต์ออฟฟิศ เป็นการแบ่งเนื้อที่ของฮาร์ดดิสก์ออกเป็นห้องสำหรับเก็บโปรแกรมต่าง ๆ ไม่ให้ปะปนกัน
                              ในโฟลเดอร์ My documents ของวินโดวส์ Me จะแบ่งย่อยเป็น - My Pictures สำหรับเก็บรูปภาพต่าง ๆ My Music เก็บแฟ้มเสียงที่เป็นเพลงต้วอย่างไว้เราสามารถนำแฟ้มเสียงและภาพมาใส่เพิ่มเติมไดh
                           My Computer  แสดงอุปกรณ์เก็บข้อมูลต่าง ๆ ทั้งหมดที่ติดตั้งไว้ ได้แก่ 3.5 Floppy (A:) Local Disk C: และ Compact Disc (E:)
                            Local Disk หมายถึง อุปกรณ์เก็บข้อมูลที่ติดตั้งในไว้ในระบบ จะมีชื่อเรียกเป็น A: B: C: D: E: F: ปกติเราจะติดตั้งเพียง A: เป็นฟลอปปีดิสก์ C: เป็นฮาร์ดดิสก์ และ D: เป็นซีดีรอม ปัจจุบันฮาร์ดดิสก์มีความจุมากขึ้น จึงต้องแบ่งออกเป็นส่วน ๆ ถ้าแบ่ง 2 ส่วน จะได้ ฮาร์ดดิสก์ชื่อ C: และ D: ซีดีรอมจะเปลี่ยนชื่อเป็น E: อย่างอัตโนมัติ
                             Control Panel เป็นเครื่องมือจัดการระบบปฏิบัติการและอุปกรณ์ ต่อพ่วงต่าง ๆ ของคอมพิวเตอร์
                              Recycle Bin เป็นที่เก็บข้อมูลที่ถูกลบจากฮาร์ดดิสก์ไว้ชั่วคราว และสามารถนำข้อมูลนั้นกลับมาใช้ได้อีก
                              Internet Explorer สำหรับคลิกเข้าสู่ระบบอินเตอร์เนต โดยต้อง ติดตั้งระบบอินเตอร์เนตก่อน
                             Windows Media Player มีไว้สำหรับดูหนัง และฟังเพลงจาก แผ่นซีดี และ MP 3 มีอยู่ในวินโดวส์ Me และรุ่นที่สูงกว่า

                              Microsoft Outlook สำหรับรับส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์หรือ e-mail ซึ่งต้องติดตั้งระบบอินเตอร์เนตไว้ด้วย

Android OS คืออะไร

Android OS คือระบบปฏิบัติการบนมือถือ (Operating System)ระบบปฏิบัติการ Android ถูกพัฒนาขึ้นมาโดยค่าย Google ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการแบบ OpenSourceจึงมีคนเริ่มดัดแปลงให้ใช้กับ Netbook ได้ด้วย
หากเป็น คอมพิวเตอร์ที่ใช้ Windows หรือ Linux เราเรียกมันว่า ระบบปฏิบัติการนั้นว่า (OS) ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าถ้าคอมพิวเตอร์ไม่ลง Windows ก็จะเปิดเครื่องเพื่อทำงานไม่ได้ โทรศัพท์มือถือ SmartPhone ก็เช่นเดียวกัน มันต้องการ OS ซึ่งใน iPhone นั้นบริษัทแอปเปิ้ลใช้ OS ที่ชื่อว่า iPhone OS ในขณะที่บริษัทกูเกิ้ล(Google) บริษัทยักษ์ใหญ่แห่งวงการไอที อีกรายก็ได้ซุ่มพัฒนา OS ที่มีชื่อว่า Android(แอนดรอยด์) OS ขึ้นมาความแตกต่างกันของ iPhone และ Android Phone ก็คือ iPhone มีผู้ผลิตรายเดียวคือแอปเปิ้ล จะไม่มีใครในโลกนี้ สามารถเอามือถือมาลง iPhone OS กลายเป็น iPhone มาขายได้อย่างแอปเปิ้ล ในขณะที่ Android (แอนดรอยด์) Phone นั้นใครๆก็เอาไปใช้ได้ เพราะกูเกิ้ลแจก Android OS ฟรี นอกจากใช้ได้แล้ว Google ยังให้เราสามารถเข้าไปแก้ไขดัดแปลง เจ้า Android ให้เป็นเวอร์ชั่นของเราได้อีกด้วยครับ

 ข้อดี VS ข้อเสีย ของ Android!!

ข้อดีของ Android
1. ความเข้ากันได้ระหว่างมือถือกับระบบ : ด้วยความที่เป็นOpen-Source ทำให้ค่ายมือถือสามารถหาทางออกร่วมกันในแง่ข้อกำหนดขั้นต่ำที่จะใช้Android และด้วยความที่เป็น Open-Source จึงมีคนเริ่มดัดแปลงให้ใช้กับNetbook ได้ด้วย
2. ราคา : Open-Source ไม่มีค่าใช้จ่ายในการใช้ แถมยังเข้ากันได้กับตัวเครื่องเนื่องจากร่วมกันผลิต ดังนั้นต้นทุนผลิตจึงต่ำ และตัวแอนดรอยด์ (ไม่รวมราคาของเครื่องที่ใช้) ถูกกว่าos ของ iphone
3. เราสามารถพัฒนาเองโดยไม่ต้องส่งคืนไปให้ที่บริษัทแม่ในต่างประเทศ เหมือนเทคโนโลยีอื่นๆ ก่อนหน้านี้ เนื่องจากเป็นระบบเปิด จึงสามารถพัฒนาได้เอง ในส่วนของซอฟต์แวร์ภายในเครื่องนั้น 90% จากต่างประเทศและอีก10% เป็นของคนไทย โดยใช้ platform android ที่สามารถพัฒนาโปรแกรมต่างๆ ได้อย่างแทบไม่มีขีดจำกัด ตัวพัฒนาโปรแกรมใน android(SDK) นั้นสามารถโหลดมาใช้ได้ฟรีๆ และไม่ได้มีข้อจำกัดเหมือน iphone ที่เวลาโอนถ่ายข้อมูลระหว่างโทรศัพท์กับคอมพิวเตอร์ต้องต่อสายและโอนข้อมูลผ่านitune เท่านั้น
4. หากเทียบกับ iphone แล้ว Androidเน้นในเรื่องการใช้งานแอพพลิเคชั่นที่หลากหลาย สามารถตกแต่งได้ตามใจชอบมากกว่า
5. สามารถใช้งานด้วยนิ้วได้สะดวกและลื่นไหล
6. สามารถทำงานได้เร็วกว่า windows mobile เร็วพอๆกับ iphone ในมาตรฐานราคา licences ที่เท่ากัน

ข้อเสียของ Android

1. เนื่องจากเป็นน้องใหม่ในตลาด โปรแกรมที่จะใช้ได้กับระบบยังไม่เยอะ มีโปรแกรมเสริมให้เลือกน้อย การพัฒนาอาจจะล่าช้ากว่า commercial software เมื่อระบบพัฒนาถึงจุดๆหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหากับผู้ใช เนื่องจากผู้ใช้คงไม่ได้อัพเกรดระบบซักเท่าไหร่นัก
2. Process : เราไม่สามารถปิดProcess เองได้ ถ้าเปิดโปรแกรมอะไรขึ้นมามันจะรันอยู่อย่างนั้นตลอดซึ่งจะทำให้เครื่องช้าลงเรื่อยๆ ต้องมาลงโปรแกรม Task Manager คอยปิด Process ทำให้ยุ่งยากมากขึ้น
3. เมื่อเทียบกับ WindowMobile ในแง่ความแพร่หลายของโปรแกรม, การใช้งานGPS และการใช้งานร่วมกับคอมพิวเตอร์ที่เป็น Windowsแล้ว Android ยังสู้ไม่ได้อย่างแน่นอน อีกทั้งการใช้งานร่วมกับภาษาไทยยังไม่รู้ว่าจะทำได้ดีขนาดไหนอีกด้วย
4. ใช้งานยากเพราะเมนูซับซ้อน ต้องทำความเข้าใจก่อน
5. ต้องต่ออินเตอร์เน็ตตลอดเวลาจึงจะใช้ฟังก์ชันได้เต็มที่

  อุปกรณ์ที่ใช่ ระบบปฏิบัติการ  Android !!

แอนดรอยด์เป็นระบบปฏิบัติการสำหรับอุปกรณ์พกพา เช่น โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ เน็ตบุ๊ก ทำงานบนลินุกซ์ เคอร์เนล

                


       หากกำลังมีคำถาม ถามตัวเองอยู่ว่า ข้อแตกระหว่าง Windows Phone vs Android vs iOS เป็นอย่างไร ?? ทำไมคนถึงชอบซื้อ iPhone, ทำไม android ถึงเป็นที่นิยม หรือ มีคนนิยมใช้ Windows Phone กันด้วยเหรอ ?? คำถามเหล่านี้ ถ้าหาก คุณไปถาม คนที่ไม่เคยใช้ Windows Phone รับรองว่า คุณจะได้คำตอบที่เหมือนๆ กัน คือ มันไม่เป็นที่นิยม, มี apps ให้เลือกไม่เยอะ เป็นต้น แน่นอนอยู่แล้วครับ Windows Phone เป็นอะไรที่ใหม่มากๆ (แทบทุกคนรู้จักAndroid และ iPhone, iPad) ซึ่งมีอยู่หลายๆ สาเหตุ ที่ทำให้ Windows Phone ค่อนข้างช้ากว่า ระบบปฏิบัติการอื่นๆ แต่ไม่ใช่สิ่งที่ผมจะมาเล่าให้ฟังในวันนี้ จะขอเอาบทความ เปรียบเทียบ Windows Phone vs Android vs iOS ที่เขาเขียนอธิบายไว้ได้ดีมาก มานำเสนอ ให้เห็นความแตกต่างของ ระบบปฏิบัติการ บน Mobiles devices ทั้ง 3 ประเภท เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง ก่อนที่จะตกลงเลือกซื้อ ครับ

Windows Phone vs Android vs iOS
จำนวน Apps


Windows Phone มี app ให้ดาวน์โหลด ประมาณ 100,000+ apps เนื่องจาก ยังไม่มี Tablet ของ Windows จึงมี apps น้อยกว่าระบบปฏิบัติการอื่นๆ, Android มี 600,000+ apps ส่วนใหญ่ ใช้บน Tablet android และ iOS มี 650,000 apps ใช้ได้บน iPad 225,000 apps
แผนที่
map software mobile

Android ถือว่าเป็น ระบบปฏิบัติการ ที่ พัฒนา map และระบบ navigation บนมือถือ ได้ดีที่สุด เพราะมี Google Map ที่ support การทำงานแบบ turn by turn (ติดตามเส้นทาง), สำหรับ Windows Phone 7 ในปัจจุบันสามารถใช้ Bing Map ของ Microsoft ได้ แต่ยังไม่สามารถใช้งาน navigator ได้ ซึ่งจะพร้อมใช้งานบน Windows Phone 8 และ iOS ยังคงใช้บริการแผนที่ของ บริษัทอื่นๆ อยู่ เช่น Google Map, open street map โปรแกรมแผนที่ของ iOS จะพร้อมใช้งานบน iOS 6

Video Chat

เปรียบเทียบ video chat program

Windows Phone ใช้ Skype เป็นโปรแกรม video chat หลัก โดย Skype app ที่ใช้อยู่บน คอมพิวเตอร์, Mac, Android, iPhone เป็น app ที่ Microsoft พัฒนาขึ้นมาเองทั้งหมดApple ใช้ Facebook แต่ข้อเสีย คือ ใช้ได้กับเฉพาะ iOS ด้วยกันเท่านั้น ส่วน Android ใช้ Google+ Hangout แทน Google Talk 

เครื่องมือการค้นหา

เครื่องมือการค้นหา

Android มีเครื่องมือช่วยในการค้นหาบน internet ที่ดีที่สุด เพราะใช้ google search ในการค้นหา ส่วน Microsoft ใช้ bing search แต่ได้รับความนิยมน้อยมากในประเทศไทย และสุดท้าย iOS ไม่มีเครื่องมือค้นหาของตัวเอง ใช้ Google เป็น default search engine แต่สามารถเปลี่ยนเป็น Bing หรือ Yahoo ได้
Voice Commands

voice command mobiles
ตั้งแต่ iOS 5 เป็นต้นมา Apple ใช้ โปรแกรม Siri ในการสั่งการด้วยเสียง ซึ่งถือว่า เป็นโปรแกรมที่พัฒนาก้าวหน้ามากที่สุดในปัจจุบัน สำหรับWindows Phone และ Android นั้น มี โปรแกรมสั่งการด้วยเสียง ของตัวเองเหมือนกัน แต่ยังไม่ได้รับการพัฒนาเท่าที่ควร สามารถใช้กับคำสั่งที่ง่ายๆ เช่น รับสายโทรศัพท์ เรียกชื่อบุคคลที่ต้องการโทรหา เพื่อโทร เป็นต้น แต่ยังไม่สามารถสั่งให้ค้นหา ได้อย่าง Siri ซึ่ง ทั้ง 2 ระบบปฏิบัติการ น่าจะเปิดตัว โปรแกรม voice commands พร้อมกับ เวอร์ชั่นใหม่ที่ได้เห็นไปข้างบน เป็นสิ่งเปรียบเทียบ ที่พอจะเห็นได้ชัดเจน ของ ระบบปฏิบัติการบนมือถือ ทั้ง 3 ตัว ถ้าหากไม่คิดเปรียบเทียบ เฉพาะเรื่องระบบปฏิบัติการเท่านั้น ก็จะมีข้อแตกต่าง/จุดเด่น/จุดด้อย ของ อุปกรณ์แต่ละรุ่น/ยี่ห้อ ที่จะต้องใช้ในการประกอบการตัดสินใจอีกครั้ง
 iOS มีตัวเลือกของอุปกรณ์น้อยที่สุด เพราะมีอุปกรณ์ที่ใช้โทรศัพท์ได้อยู่รุ่นเดียว คือ iPhone แต่ก็ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะความใช้งานง่าย และรูปแบบที่ดูดี ในสไตล์ apple แต่ก็มักถูกต่อว่า เห็นแก่ตัว จะใช้ App อะไรก็ต้องได้รับอนุญาตจาก Apple เท่านั้น นอกจากว่าจะเอาเครื่องไป Jailbreak เสียก่อนAndroid เป็นระบบปฏิบัติการที่ถูกติดตั้งลงบนโทรศัพท์ หรือ Tablet จำนวนมากที่สุดในโลก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า อุปกรณ์ทุกรุ่น ที่ลง android จะใช้งาน ได้เต็มประสิทธิภาพ เหมือนกันหมดและสุดท้าย สำหรับ Windows Phone น้องใหม่ในวงการ ซึ่งยังตามหลังทั้ง Android และ Apple อยู่หลายก้าว กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาและค้นหาตนเอง เพื่อให้กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง เช่นเดียวกันในยุคของ PDA คงต้องหาสิ่งแปลกๆ ใหม่ๆ มาดึงดูดใจ ให้คนมาเลือกใช้ Windows Phone กันมากขึ้น สิ่งแรกที่ Microsoft ได้ทำไปแล้ว ก็คือ ผู้ใช้ Windows Phone สามารถใช้ Microsoft office ได้บนโทรศัพท์ แบบฟรีๆ เป็นต้น อีกก้าวหนึ่งที่สำคัญ คือ การเซ็นต์สัญญา กับ Nokia เพื่อพัฒนามือถือ และระบบปฏิบัติการบนมือถือ ร่วมกัน


ที่มา:  


                      

โดยนางสาวหยาดพิรุณ  เกิดโชค สาขา Sme 2/1 กลุ่มเรียนวันพุธ-บ่าย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น